เลเซอร์กำจัดขน...บอกลาขนแบบถาวร ปลอดภัย

  หนึ่งในปัญหาผิวที่กวนใจสาวๆมาทุกยุคทุกสมัย คือขนที่มากเกินไปตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้า รักแร้ แขน ขาหรือหน้าแข้ง หลายครั้งอยากจะอวดผิวเรียบเนียนใส แต่ขาดความมั่นใจเพราะเรื่อง “ขน ขน” นี่แหล่ะ ดังนั้นจึงทำให้หลายคนพยายามหาวิธีกำจัดขนให้อยู่หมัด ไม่ว่าจะโกน ถอน แว๊กซ์ หรือเลเซอร์ แต่วิธีไหนให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าถาวร เราไปเรียนรู้ด้วยกันค่ะ  

การกำจัดขนในปัจจุบันมีกี่ประเภท 

การกำจัดขนแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 

1. การกำจัดขนแบบชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นการถอน การโกน การแว๊กซ์ หรือใช้น้ำยากำจัดขน เป็นต้น เนื่องจากวิธีนี้สะดวก ง่าย และราคาไม่สูง ทำให้ได้รับความนิยม แต่ข้อเสียของการกำจัดขนแบบนี้คือต้องทำอยู่บ่อยๆและต่อเนื่อง เพราะเป็นการกำจัดขนที่ปลายเหตุ แต่ไม่ได้เปลี่ยนกลไกของรากขน แถมยังอาจจะทำให้เกิดขนคุด ผิวเป็นหนังไก่ไม่เรียบ หรือรักแร้ดำตามมาได้ 
2. การกำจัดขนแบบถาวร การกำจัดขนแบบนี้มีอยู่ 2 วิธีคือการจี้ด้วยไฟฟ้าหรือจี้ด้วยคลื่นวิทยุ และการใช้เลเซอร์ ซึ่งต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น   

ทำไมการใช้เลเซอร์กำจัดขนจึงเป็นที่นิยม 

การทำเลเซอร์กำจัดขนกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากใช้เวลาไม่นาน ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และมีประสิทธิภาพมากกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาที่จะตามมาด้วย โดยพลังงานความร้อนจากเลเซอร์จะเข้าไปตรงจุดที่รากขน ทำให้รากขนค่อยๆ ฝ่อ และการผลิตขนก็จะค่อยๆช้าลง รากขนไม่ได้ตายเพียงแต่ลดการทำงานลงไปเรื่อยๆเท่านั้น

ดังนั้นขนที่ขึ้นมาใหม่จะค่อยๆมีขนาดเล็ก บาง สีจางลง และการงอกขึ้นมาใหม่ก็จะช้าลงด้วย เราเรียกการกำจัดขนลักษณะนี้ว่า การกำจัดขนกึ่งถาวร เลเซอร์กำจัดขนมีหลายแบบด้วยกัน แต่ที่นิยมในบ้านเราคือ IPL (Intense Pulsed Light) และ Long Pulsed Nd YAG หรือที่เรียกกันว่า “แย๊ก” นั่นเอง  

IPL (Intense Pulsed Light) 

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า IPL คือเลเซอร์ แต่จริงๆแล้วคือเป็นการรวมตัวของแสงสเปกตรัม ซึ่งเป็นลำแสงที่มีวงกว้าง ดังนั้นอาจะทำให้ผิวบริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบด้วย เช่นอาจทำให้ผิวไหม้ แดง หรือบวมได้ เนื่องด้วยข้อจำกัดที่ส่งผลต่อผิวของ IPL ทำให้มีการพัฒนาต่อยอดมาใช้เครื่อง UPL กันมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะนำมาใช้กำจัดขนรักแร้ที่ไม่หนามากค่ะ   

Long Pulsed Nd YAG (YAG)  

นวัตกรรมเลเซอร์ชนิดนี้กำลังได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมาก เนื่องจากปลอดภัย กำจัดขนได้ตรงจุด โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ซึ่งก่อนทำเลเซอร์ชนิดนี้จำเป็นต้องทา Carbon Lotion ลงบนผิวก่อนเพราะจะช่วยทำให้ผิวชาและช่วยในการดูดซึมลำแสงของเลเซอร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้ดีมากขึ้น ที่สำคัญมากยิ่งไปกว่านั้นต้องเลือกคลินิก โรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เท่านั้นค่ะ  

การใช้เลเซอร์กำจัดขนเห็นผลช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับอะไร 

 ต้องทำนานเท่าไหร่? ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล? การใช้เลเซอร์กำจัดขนจะเห็นผลช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้ 

1. ประสิทธิภาพของเลเซอร์อย่างที่เราทราบว่าการกำจัดขนแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่หากต้องการเห็นผลที่น่าพึงพอใจ ควรคำนึงถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของเลเซอร์ที่ใช้
2. เทคนิคการยิงเลเซอร์ของแพทย์การขอคำแนะนำและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำให้สามารถลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากการเลเซอร์กำจัดขนได้ 
3. ลักษณะและปริมาณขนของลูกค้าหากลูกค้ามีขนค่อนข้างมาก ก็จะใช้เวลาในการกำจัดมากกว่า นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการกำจัดขนด้วย เช่น บริเวณรักแร้กับหน้าแข้งจะมีความหนาแน่นของขนใกล้เคียงกันประมาณ 65 เส้น/ตารางเซนติเมตร ในขณะที่บริเวณใบหน้าของคนเราจะมีความหนาแน่นประมาณ 500 เส้น/ตารางเซนติเมตร ซึ่งในกำจัดขนก็จะมีระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป  

ต้องทำเลเซอร์กำจัดขนกี่ครั้งจึงจะเห็นผล 

โดยปกติการใช้เลเซอร์สามารถกำจัดขนได้ถึง 60-80% แต่ไม่ได้หมายความว่าทำครั้งเดียวจบ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆข้างต้นที่ได้กล่าวไป เนื่องจากว่าขนที่ขึ้นมาให้เราเห็นมีเพียงแค่ 20% ของปริมาณทั้งหมดที่ยังซ่อนอยู่เป็นรากสำรองใต้ผิวหนังเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะค่อยๆงอกขึ้นมา ดังนั้นหากอยากให้ขนลดลงอย่างชัดเจน อาจจะต้องทำซ้ำประมาณ 3-8 ครั้งแล้วแต่ปริมาณของขน ลักษณะและสีของเส้นขน รวมทั้งเชื้อชาติของแต่ละคนด้วย และขนจะหายไปโดยเฉลี่ย 3-5 ปี แต่กรณีที่ลูกค้ามีขนดำหรือลักษณะเส้นขนหนามาก ก็จะมีเส้นอ่อนๆเล็กๆให้เห็นบ้างเล็กน้อย  

ผลที่ได้จากการทำเลเซอร์กำจัดขน 

นอกจากปริมาณขนจะลดลงขึ้นช้าและเส้นบางลงแล้ว การทำเลเซอร์กำจัดขนยังให้ผลลัพธ์ในด้านดีคือ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวในตำแหน่งที่ทำเลเซอร์ ทำให้บริเวณนั้นเรียบเนียน และขาวขึ้นด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถช่วยเรื่องกลิ่นตัวได้ด้วย เนื่องจากว่าขนและต่อมกลิ่นบางส่วนถูกทำลายจากการกำจัดรากขน ทำให้ไม่มีการสะสมของเหงื่อ ดังนั้นกลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งหลายจึงลดลงได้ค่ะ  

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กำจัดขน 

 ก่อนทำเลเซอร์กำจัดขน ควรปล่อยให้ขนออกมาตามธรรมชาติ หยุดกำจัดขนด้วยวิธีต่างๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อที่ลำแสงของเลเซอร์จะสามารถไปจับเม็ดสีได้ในระยะที่กำลังเติบโต ซึ่งจะให้ผลดีมากกว่า  

การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์กำจัดขน 

เป็นปกติที่ผิวหนังในบริเวณที่ทำเลเซอร์กำจัดขนอาจมีรอยแดงอมชมพู แต่หลังจากนั้นจะค่อยๆหายไปเอง และเส้นขนจะค่อยๆถูกดันให้หลุดออกจากผิวภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งในระหว่างนี้ผู้รับการรักษาจะต้องให้ความร่วมมือในการดูแลตนเองดังนี้ 

1. งดใช้สบู่ หรือครีมที่ทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง เช่น กรดวิตามินเอ(Retin-A) หรือ AHA 
2. หลีกเลี่ยงการใช้โรลออนที่เป็นสารเคมีบริเวณรักแร้ 
3. หลีกเลี่ยงแดดจัด โดยเฉพาะบริเวณที่ทำเลเซอร์กำจัดขนนอกร่มผ้า เช่น แขน ขา หรือบริเวณใบหน้าเพราะอาจทำให้เกิดรอยดำ 

นารดาคลินิกเราพร้อมให้บริการเลเซอร์กำจัดขน โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดแบบ Long Pulsed Nd YAG (YAG) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย
และการใช้ UPL เพื่อการกำจัดขนที่บริเวณรักแร้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้คำแนะนำทั้งก่อนและหลังการทำเลเซอร์ สอบถามโปรโมชั่น พร้อมสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call center 053-215447 หรือ Line: @naradaclinic